กรรมทุกๆ อย่างแก้ได้ด้วยบุญเท่านั้น
---กรรมที่เราได้ทำไว้นั้น บางอย่างอาจให้ผลในชาตินี้ บางอย่างอาจให้ผลในชาติหน้า แต่บางอย่างอาจให้ผลข้ามภพข้ามชาติ หลายสิบชาติ
---กรรมหนักย่อมให้ผลเร็ว เปรียบเหมือนการเตะลูกบอลอัดผนัง ยิ่งเราเตะแรงเท่าไหร่ ลูกบอลก็จะเด้งคืนมาเร็วเท่านั้น
---การที่เราเกิดแล้วตายนับชาติไม่ถ้วนนี้ ก็เป็นคำตอบแก่ท่านที่สงสัยว่า ในชาตินี้เราไม่เคยก่อกรรมทำเข็ญอะไร แต่ทำไมชีวิตจึงมีแต่เรื่องร้ายๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในชาตินี้เราไม่ได้สร้างกรรมชั่วก็จริง แต่ย้อนในอดีตชาติ เราอาจได้ก่อกรรมทำชั่วเอาไว้ก็เป็นได้
---การให้ผลของกรรมเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ไม่อาจจะพิสูจน์ในชั่วชีวิตหนึ่ง พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน จูฬกัมมวิภังคสูตร ว่า
---บุคคลมีอายุสั้น เพราะชาติก่อนเคยฆ่าสัตว์
---มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนต้องทนทุกข์ทรมาน เพราะชาติก่อนเคยทำร้ายเบียดเบียนสัตว์อื่น ผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บทรมาน
---มีรูปร่างไม่สวย ขี้ริ้วขี้เหร่ เพราะชาติก่อนเป็นคนเจ้าโทสะโมโหร้าย ขาดเมตตาธรรม
---เกิดมาเป็นคนไร้อำนาจวาสนา ทำอะไรไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะชาติก่อนชอบอิจฉาริษยา ชอบตำหนิติเตียนความดีของผู้อื่น
---เกิดมาเป็นคนยากจน เลี้ยงชีพด้วยความลำบาก เพราะชาติก่อนเป็นคนตระหนี่ขี้เหนียว ไม่ทำบุญบริจาคทาน
---เกิดในตระกูลต่ำเป็นทาสรับใช้เขา เพราะชาติก่อนเคยดูถูกเหยียบหยามคนอื่่น ขาดความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อสมณพราหมณ์และผู้ใหญ่ในตระกูล
---เกิดมาขาดสติปัญญา เป็นคนโง่เขลา เพราะชาติก่อนไม่ได้ทำการเจริญภาวนา ไม่ใส่ใจในการอบรมปัญญา
บรรเทากรรมด้วยตนเอง
*1.กรรมไร้บุตรสืบสกุล หรือต้องพลัดพรากจากบุตร
---กรรมนี้เกิดจาก เคยทำแท้ง ฆ่าหรือทำร้ายลูกของสัตว์อื่น พรากลูกพรากแม่หรือทำให้คนต้องสูญเสียลูกที่รัก
---วิธีบรรเทากรรม ให้ถือศีลข้อ 1 คือ เว้นจากการฆ่าและทำร้ายสัตว์ งดบริโภคเนื้อสัตว์ทุกๆ 7 วัน ถือศีลกินเจตามโอกาสในเทศกาลต่างๆ หมั่นทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา ไถ่ชีวิตโค หรือสัตว์แม่ลูกอ่อน ทำบุญกับคนท้อง หรือมูลนิธิเด็กอ่อน โรงพยาบาลเด็ก และให้สวดมนต์แผ่เมตตาก่อนนอนทุกคืน
*2.กรรมเจ็บป่วยบ่อยหรือเป็นโรคร้าย
---กรรมนี้เกิดจาก เคยเบียดเบียนทำทารุณกรรมสัตว์หรือรัปประทานเนื้อสัตว์แล้วไม่เคยแผ่เมตตา
---วิธีบรรเทากรรม ให้ทำบุญทำทานกับสัตว์อนาถาหรือสัตว์บาดเจ็บ ให้ทำความดีด้วยการบริจาคเงินหรือยารักษาโรคให้กับสัตว์ และสวดมนต์มหาเมตตาใหญ่ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ เพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้
*3.กรรมที่ทำให้เป็นโรคตา
---กรรมนี้เกิดจาก เคยทำร้ายสัตว์หรือผู้อื่นที่ดวงตาจนถึงขั้นตาบอด เคยทำลายอุปกรณ์ที่ให้แสงสว่าง เช่น ไฟฟ้า ตะเกียง ของสงฆ์หรือสาธารณะ
---วิธีบรรเทากรรม ให้ทำบุญด้วยการซื้ออุปกรณ์แสงสว่าง เช่น โคมไฟ หลอดไฟ ตะเกียง เทียน ไฟฉาย ถวายแด่พระภิกษุสามเณร ทำบุญบริจาคค่าไฟ หรือร่วมทำบุญสร้างหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อให้เป็นสาธารณประโยชน์แก่วัด ชุมชน โรงเรียน เป็นต้น
*4.กรรมดวงซวย ถูกรถเฉี่ยวชน ถูกลูกหลง ถูกสัตว์กัด
---กรรมนี้เกิดจาก เคยเป็นคนนิสัยอันธพาล ทำตัวเกะกะเกเร สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น คึกคะนอง เช่น แก๊งปาหิน เด็กแว้น เป็นต้น หรือชอบรังแกและสาปแช่งผู้อื่นอยู่เสมอ
---วิธีบรรเทากรรม ให้หมั่นสวดมนต์ทำสมาธิทุกวัน บริจาคสิ่งของเครื่องใช้ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ เช่น อุทกภัย อัคคีภัย วาตภัย แผ่นดินไหว หรือบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่น และตั้งตนอยู่ในสัมมาวาจา ไม่พูดสาปแช่ง เยาะเย้ย ซ้ำเติมผู้อื่น
*5.กรรมถูกยุยงใส่ความให้ผิดใจกับคนรอบข้าง
---กรรมนี้เกิดจาก เคยยุยงคนอื่นให้แตกสามัคคี ทำร้ายห้ำหั่นกัน หรือ เกิดจากกรรมนำสัตว์มาทำร้ายด้วยความคึกคะนอง เช่น จับแมวมาโยนใส่สุนัข ให้สุนัขไล่ เป็นต้น หรือเกิดจากการเคยนำสัตว์มาทรมานด้วยการให้ชนกัน กัดกัน เช่น ชนไก่ กัดปลา ชนวัว เป็นต้น
---วิธีบรรเทากรรม ให้งดเว้นจากการนินทาว่าร้ายและยุยงให้คนอื่นแตกกัน ช่วยให้คนทะเลาะกันคืนดีกัน ร่วมกิจกรรมส่งเสริมให้คนเกิดความรักความสามัคคีกัน ช่วยโน้มน้าวผู้ที่รักในกีฬาประเภทผจญภัยสัตว์ เช่น ชนไก่ กัดปลา ให้เลิกเสีย และให้หมั่นเจริญเมตตาขอให้สัตว์หรือมนุษย์ที่ทะเลาะกันกลับมารักกัน
*6.กรรมถูกนินทา ถูกใส่ร้าย
---กรรมนี้เกิดจาก เคยนินทาและใส่ร้ายผู้อื่นมาก่อน
---วิธีบรรเทากรรม ให้ละเลิกการนินทาหรือใส่ร้ายคนอื่นอย่างเด็ดขาด และไม่คิดอิจฉาเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี หมั่นทำบุญด้วยการให้ธรรมะเป็นทาน ให้คำแนะนำสิ่งที่ดีมีประโยชน์และความเป็นสุขแก่ผู้อื่น หรือทำบุญพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทานและให้สวดมนต์บทกรณียเมตตสูตรเป็นประจำ
*7.กรรมเดือดร้อนเพราะไฟ เช่น ไฟไหม้ ไฟฟ้าดูด
---กรรมนี้เกิดจาก เคยลบหลู่ผู้ที่ไม่ควรลบหลู่ เช่น ลบหลู่พระรัตนตรัย ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ลบหลู่ศาสนา พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ เป็นต้น
---วิธีบรรเทากรรม ให้ไปขอขมากับบุคคลที่ตนเคยลบหลู่ ถ้าลบหลู่พระรัตนตรัยให้สรงน้ำพระพุทธรูปด้วยน้ำหอม กล่าวคำบูชาและตั้งจิตกล่าวคำขอขมาว่า
---วันทามิ พุทธัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต
---วันทามิ ธัมมัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต
---วันทามิ สังฆัง สัพพัง เม โทสัง ขะมะถะ เม ภันเต.
---ถ้าลบหลู่บิดามารดาหรือครูอาจารย์ ให้นำน้ำไปล้างเท้าแล้วกล่าวคำขอขมา และต้องประพฤติตนมีสัมมาคารวะอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ดูหมิ่น ยกตนข่มผู้อื่น
*8.กรรมไม่มีผู้ชื่นชมเอ็นดู ไม่มีเสน่ห์
---กรรมนี้เกิดจาก ไม่เคยทำบุญถวายของหอมบูชาพระและลบหลู่ดูหมิ่นผู้อื่น
---วิธีบรรเทากรรม ให้หมั่นสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน บูชาพระด้วยธูปหอม เทียน ดอกไม้สด ปิดทอง ประน้ำอบน้ำปรุง หมั่นประพฤติดีต่อผู้อื่น คิดดีหวังให้ผู้อื่นได้ดี ไม่คิดให้ร้ายผู้ใด
*9.กรรมชีวิตตั้งหลักปักฐานไม่ได้ อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง
---กรรมนี้เกิดจาก ไม่เคยร่วมทำบุญสร้างอสังหาริมทรัพย์หรือถาวรวัตถุเอาไว้ เช่น ไม่เคยร่วมบริจาคซื้อที่ดิน สร้างถนน หนทาง สร้างโบสถ์ วิหาร ถวายวัดวาอารามต่างๆ
---วิธีบรรเทากรรม ร่วมบริจาคสมทบทุนซื้อที่่ดิน สร้างโบสถ์ วิหาร ทำบุญฝังลูกนิมิต หรือร่วมสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ไว้เป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชน เป็นต้น
*10.กรรมขาดบารมี ไร้ญาติขาดมิตร
---กรรมนี้เกิดจาก ความที่ตนเป็นคนใจแคบไม่เคยทำบุญร่วมกับคนอื่น อีกทั้งไม่ชักชนคนอื่นทำบุญ ทำบุญก็ทำแต่คนเดียว เรียกว่า เป็นคนตระหนี่บุญ
---วิธีบรรเทากรรม ชักชวนคนอื่นทำบุญ และร่วมทำบุญกับผู้อื่น เช่น ร่วมทำบุญกฐินสามัคคี ผ้าป่าสามัคคี รวมถึงเข้าร่วมโครงการสามัคคีทำดีต่างๆ เช่น โครงการปลูกป่าสามัคคี มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา) ยามยาก ตลอดถึงชักชวนผู้อื่นพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน
*11.กรรมมักถูกรังแก ถูกเบียดเบียน
---กรรมนี้เกิดจาก เคยรังแกและชอบเบียดเบียนผู้อื่นมาก่อน อนึ่ง ท่านกล่าวว่าเป็นเพราะไม่เคยสร้างบารมีด้วยการบวช หรือทำบุญงานบวช
---วิธีบรรเทากรรม ให้เกียรติแก่ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ด้วยความเสมอภาค ไม่ใช้กำลังอำนาจหน้าที่รังแกผู้อื่น และให้หาโอกาสอุปสมบทเป็นพระตามศรัทธา ถ้าเป็นหญิงให้บวชชีพราหมณ์ หรือถ้าไม่บวชจะร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพงานบวชต่างๆ ก็ได้ เช่น โครงการอุปสมบทชาวเขา โครงการบวชถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นต้น
*12.กรรมเป็นที่รังเกียจของคนอื่น มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว
---กรรมนี้เกิดจาก มักตำหนิติเตียนดูหมิ่นผู้ที่ทำบุญ ทำความดี และชอบกล่าวใส่ร้ายป้ายสี ปั้นเรื่อง ทำให้ผู้อื่นเสียหาย
---วิธีบรรเทากรรม ยินดีอนุโมทนาสาธุกับผู้ที่ทำความดี ไม่กล่าวนินทาว่าร้ายผู้อื่น ให้เกิดความเสียหาย ยกย่อง สรรเสริญ ความดีของผู้อื่นด้วยความจริงใจ ไม่เสแสร้างแกล้งทำ และหมั่นสวดมนต์บทสรรเสริญพระพุทธคุณ (อิติปิโส) ธรรมคุณ (สวากขาโต) สังฆคุณ(สุปะฏิปันโน) เป็นประจำ
*13.กรรมได้รับความลำบากระหว่างเดินทาง
---กรรมนี้เกิดจาก เคยทำลายสะพาน ทางสัญจรที่เป็นของวัด หรือของสาธารณะให้ได้รับความเสียหาย เป็นเหตุให้คนอื่นสัญจรไม่สะดวก
---วิธีบรรเทากรรม ให้ทำบุญบริจาคทรัพย์หรือออกแรงช่วยสร้างสะพานถนนหนทางอันเป็นประโยชน์
*14.กรรมที่ต้องเป็นคนรับใช้คนอื่น
---กรรมนี้เกิดจาก เคยเป็นหนี้คนอื่นหรือไม่ใช้คืน หรือเนรคุณต่อผู้มีพระคุณ เช่น เขาให้ความช่วยเหลือตน แต่ตนกลับหลอกเอาทรัพย์ของเขา และเกิดจากใช้ผู้มีศีลหยิบของให้แก่ตน
---วิธีบรรเทากรรม ให้ทำบุญด้วยการบริจาคเงิน เพื่อชำระหนี้ให้แก่ผู้อื่น
*15.กรรมขัดสน อดเมื้อกินมื้อ
---กรรมนี้เกิดจาก เคยกักขังสัตว์หรือบุคคลให้อดอาหารหรือเลี้ยงแบบอดมื้อกินมื้อ
---วิธีบรรเทากรรม ให้หมั่นทำบุญตักบาตรทุกวัน แบ่งปันอาหาร น้ำ เสื้อผ้า สิ่งของตามที่มี ให้อาหารแก่สัตว์ที่อดอยาก
*16.กรรมอาภัพคู่ หรือถูกแย่งคู่ครอง
---กรรมนี้เกิดจาก เคยทำให้คนอื่นอย่าร้างกัน ทำสัตว์หรือคนที่รักกันให้ต้องพลัดพรากจากกัน อนึ่ง เกิดจากกรรมที่เคยแย่งคู่ครองของคนอื่น ทั้งที่รู้ว่าเขามีเจ้าของแล้ว
---วิธีบรรเทากรรม ให้ทำบุญด้วยการช่วยเหลือผู้อื่นให้สมหวังในความรัก ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพในงานแต่งงานคู่บ่าวสาวที่ยากจน หรือทำบุญถวายของเป็นคู่ เช่น แจกันคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ เป็นต้น ที่สำคัญให้ยึดมั่นในศีลข้อ 3 ไม่ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น
*17กรรมได้คู่ครองไม่ดี ทุบตีทำร้ายตน
---กรรมนี้เกิดจาก เคยข่มเหงรังแก ทุบตีทำร้ายคู่ครองในชาติก่อน หรือใช้กำลังข่มขืนรังแกเขามาก่อน
---วิธีบรรเทากรรม สวดมนต์ เจริญวิปัสสนา ทำสมาธิ แล้วแผ่เมตตาให้แก่คู่ครองของตน
*18.กรรมเกิดมาพิการ ร่างกายไม่สมประกอบ
---กรรมนี้เกิดจาก เคยทุบตีทำร้ายพ่อแม่ หรือทำร้ายสัตว์อื่น ผู้อื่นถึงขั้นพิการ รูปร่างไม่สมทรง เช่น แกล้งขับรถชนสุนัขให้ขาหัก
---วิธีบรรเทากรรม ให้ขอขมากับสิ่งที่ตนเคยทำกับพ่อแม่ หมั่นทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา ถือศีล 5 ศีล 8
*19.กรรมรูปร่างหน้าตาไม่งดงาม
---กรรมนี้เกิดจาก เป็นคนขี้โมโห หงุดหงิดง่าย มักอาฆาต พยาบาท และไม่ตั้งอยู่ในศีล ทำบุญด้วยของที่มีตำหนิ เช่น ทำบุญด้วยดอกไม้เหี่ยว หรือของที่ใช้แล้ว เป็นต้น
---วิธีบรรเทากรรม ฝึกจิตให้มีขันติธรรม คือ ความอดทน อดกลั้นต่อคำยั่วยุ หรืออารมณ์ที่ไม่ชอบใจ และหมั่นสวดมนต์เจริญเมตตา รักษาศีล 5 อยู่เสมอ รู้จักการให้อภัย ไม่ถือโทษโกรธเคือง
*20.กรรมมีคดีความ
---กรรมนี้เกิดจาก เป็นคนแล้งน้ำใจ พบคนทุกข์ร้อนแล้วไม่ช่วยเหลือ ขับไล่ให้หนีไป
---วิธีบรรเทากรรม ให้หมั่นทำบุญกับผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก และประสบภัยพิบัติต่างๆ เช่น ภัยน้ำท่วม เป็นต้น มีน้ำใจแก่คนอื่น
*21.กรรมถูกโกง ถูกเบี้ยวเงิน
---กรรมนี้เกิดจาก เคยคดโกงหรือเบี้ยวเงินคนมาก่อน อนึ่งเกิดจากการประกอบอาชีพที่ไม่สุจริต ชอบเอารัดเอาเปรียบคนอื่น เช่น ค้าขายเอากำไรเกินควร โกงด้วยตราชั่ง เป็นต้น
---วิธีบรรเทากรรม สวดมนต์แล้วตั้งจิตอธิฐานต่อหน้าพระพุทธรูปว่า จะประกอบอาชีพโดยสุจริต จากนั้นให้ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน
*22.กรรมเป็นคนแร่ร่อน อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง
---กรรรมนี้เกิดจาก ไม่เคยสงเคราะห์ช่วยเหลือคนอนาถาที่มาขออาหาร ขอชายคาหลบฝน ไม่มีน้ำใจช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก
---วิธีบรรเทากรรม ทำบุญทำทานกับสัตว์พิการ หรือสัตว์จรจัด ให้ความอนุเคราะห์ สงเคราะห์แก่คนยากจนที่ไร้ที่อยู่อาศัย
*23.กรรมไร้เกียรติ ขาดคนเคารพ
---กรรมนี้เกิดจาก เคยติฉินนินทาทำให้ผู้อื่นเสียหาย ไม่มีเความเคารพยำเกรงต่อผู้ใหญ่ ไม่ให้เกียรติผู้อื่น มักตำหนิ ขัดขวางผู้อื่นไม่ให้มีความก้าวหน้า
---วิธีบรรเทากรรม ทำบุญสร้างหอระฆัง ทำบุญหล่อเทียนพรรษา ทำทานกับคนยากไร้และสัตว์อนาถา ประพฤติตนเป็นคนอ่อนน้อม มีสัมมาคารวะ สนับสนุนคนดีให้มีความก้าวหน้า และไม่คิดอิจฉา ยินดีกับผู้ที่ประสบความสำเร็จ
*24.กรรมขาดอำนาจวาสนาบารมี ไม่มีโอกาสเป็นผู้นำ
---กรรมนี้เกิดจาก ไม่เคยชักชวน หรือนำพาคนอื่นให้ทำบุญ ทำทาน จะทำบุญก็มักรอให้คนอื่นชักชวนโน้มน้าวก่อนจึงทำ แม้ทำก็ทำด้วยความไม่เต็มใจ เรียกว่า ทำบุญขาดบุพเจตนา คือไม่ความตั้งใจตั้งแต่เริ่มแรก
---วิธีบรรเทากรรม ทำบุญอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วชักชวนคนอื่นให้ทำบุญด้วย เช่น ชักชวนเพื่อนร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกเป็นธรรมทาน รับเป็นเจ้าภาพบวชพระหรือทำบุญสร้างพระประธาน
*25.กรรมมีลูกหลานไม่ดี เกเร ไม่เชื่อฟัง
---กรรมนี้เกิดจาก เคยทำตัวเหลวไหล ทำร้ายจิตใจพ่อแม่
---วิธีบรรเทากรรม สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนา กรรมฐาน 7 วัน แผ่เมตตาและอุทิศให้กับลูกตนเองเป็นประจำ หาโอกาสให้ลูกได้ทำบุญปฏิบัติธรรม
*26.กรรมเจอแต่คนเอารัดเอาเปรียบ
---กรรมนี้เกิดจาก เคยเอารัดเอาเปรียนคนอื่นมาก่อน เช่น หยิบฉวยหรือขโมยเงินพ่อแม่ ของครอบครัวไปใช้โดยพลการ หรือเป็นพ่อค้าคนกลางซื้อของกดราคา เป็นต้น
*27.กรรมเกิดในสกุลต่ำต้อย
---กรรมนี้เกิดจาก เป็นคนยโสโอหัง อวดดี ไม่เคารพ ผู้หลักผู้ใหญ่ในตระกูล
---วิธีบรรเทากรรม ประพฤติตนเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ยำเกรงและให้ความเคารพกราบไหว้พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย คนที่อาวุโสกว่าคนในตระกูล
*28.กรรมด้อยปัญญา
---กรรมนี้เกิดจาก ฝักใฝ่อบายมุขในชาติก่อน ชักชวนคนไปทำชั่วหรือหากินด้วยการมอมเมาผู้อื่นด้วยสิ่งเสพติด เกมส์ และอบายมุข ดูหมิ่นหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
---วิธีบรรเทากรรม พิมพ์หนังสือ สื่อธรรมะ เช่น CD DVD ธรรมะแจกเป็นธรรมทาน บริจาคหนังสือ อุปกรณ์การเรียน แก่เด็กยากจน สมทบทุนสร้างโรงเรียนช่วยคนที่ติดอบายมุขให้ละเลิก
*29.กรรมขาดสง่าราศี เป็นที่รังเกียจของคน
---กรรมนี้เกิดจาก เคยเมาสุราอาละวาดระรานผู้อื่น
---วิธีบรรเทากรรม ตั้งจิตอธิฐานต่อหน้าพระพุทธรูปว่า จะไม่ดื่มเหล้าหรือข้องเกี่ยวกับยาเสพติดตลอดชีวิต หมั่นนั่งกรรมฐาน ฝึกสมาธิ ทำทานกับคนและสัตว์อนาถา และทุกครั้งที่ทำความดีให้ตั้งจิตขออโหสิกรรมแก่เจ้ากรรมนายเวร
*30.กรรมไม่เจริญก้าวหน้า แก่หน้าที่การงาน
---กรรมนี้เกิดจาก เคยยุยงเป่าหู กลั่นแกล้งผู้อื่นไม่ให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ด้วยความอิจฉา กลัวเขาได้ดีกว่าตน หรืออาจเกิดจากกรรมในปัจจุบันที่ตนไม่มีความรัก ความตั้งใจ ไม่ทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มใจ ทำเพื่อหวังเอาหน้า
*31.กรรมคิดมาก จิตใจฟุ้งซ่าน เป็นทุกข์
---กรรมนี้เกิดจาก เคยสร้างความทุกข์กังวลใจให้กับผู้อื่น เช่น ลูกไม่พอใจพ่อแม่แล้วหนีออกจากบ้าน ทำตัวเกเร เพื่อให้พ่อแม่เป็นทุกข์ หรือเป็นนักข่าวออกข่าวกลั่นแกล้งให้คนอื่นเสียหาย เป็นกังวลทุกข์ใจ เป็นต้น
---วิธีบรรเทากรรม เชื่อฟังพ่อแม่ เชื่อฟังคำตักเตียนของคนที่รักเรา ทำตัวดีอย่าให้คนอื่นเป็นทุกข์เพราะเรา หมั่นทำบุญ ตักบาตร ถวายสังฆทาน ปล่อยปลา นั่งสมาธิ สวดมนต์บทพระคาถาชินบัญชรแล้วอธิฐานขอให้ใจสงบสุข
*32.กรรมเป็นเมียน้อย เมียเก็บ กิ๊ก
---กรรมนี้เกิดจาก เคยผิดศีลข้อกาเม ผิดลูกผิดเมียคนอื่น ขืนใจโดยเขาไม่ยินยอม เคยอธิฐานให้ใด้ใช้ชีวิตร่วมกันทุกชาติ
---วิธีบรรเทากรรม ให้ยึดมั่นในหลักศีล 5 หมั่นสวดมนต์ไหว้พระ หาโอกาสบวชชีพราหมณ์ 7 วัน 25 วัน นั่งวิปัสสนากรรมฐาน แผ่เมตตาอุทิศบุญให้สามีและเมียหลวง ขอให้เขามีความสุข ทำบุญถวายธงคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ อย่างใดก็ได้ แล้วอธิฐานจิตขอให้ชีวิตคู่ดีขึ้น
*33.กรรมเป็นทุกข์เพราะคนในครอบครัว
---กรรมนี้เกิดจาก เคยลำเอียงเอารัดเอาเปรียบคนในครอบครัว คนใกล้ชิดในชาติอดีตและชาติปัจจุบัน หรือเคยทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยกกัน
---วิธีบรรเทากรรม ให้ทำบุญกับเด็กกำพร้าครอบครัวแตกแยก ก่อนนอนให้สวดมนต์บทมหาเมตตาใหญ่ 1 จบ ติดต่อกัน 3 เดือน แล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ตั้งจิตอธิฐานขอบุญกุศลที่สร้าง ดลให้ครอบครัวมีความสุขอบอุ่น
*34.กรรมค้าขายขาดทุน
---กรรมนี้เกิดจาก ค้าขายค้ากำไรเกินควรหรือเคยคดโกงผู้อื่นมาก่อน อนึ่ง ท่านว่าเคยลบหลู่เจ้าที่เจ้าทางมาก่อน
---วิธีบรรเทากรรม ให้ทำบุญใส่บาตรถวายสังฆทาน ถวายเครื่องเซ่นสังเวยเจ้าที่เจ้าทาง และให้สวดมนต์บทพระคาถาชินบัญชร บทแผ่เมตตา แล้วอุทิศส่วนบุญแก่เจ้ากรรมนายเวร เจ้าที่เจ้าทาง เพื่อขอขมาและให้ท่านอโหสิกรรม
*35.กรรมเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต
---กรรมนี้เกิดจาก เคยฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์หรือทำร้ายคนอื่นอย่างทารุณ ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ
---วิธีบรรเทากรรม ให้สวดมนต์ บทมหาเมตตาใหญ่ วันละ 3 จบ ติดต่อกัน 9 เดือน หลังสวดมนต์แล้วให้นั่งวิปัสสนากรรมฐานทุกวัน จากนั้นให้แผ่เมตตาและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ตลอดถึงสรรพสัตว์ทั้งหลาย
*36.กรรมเป็นมะเร็ง
---กรรมนี้เกิดจาก รู้เห็นเป็นใจกับการทำแท้ง การทารุณสัตว์หรือการทำร้ายผู้อื่น รับประทานเนื้อสัตวที่มีความอาฆาตพยาบาทแรงกล้า เนื่องจากถูกฆ่าอย่างทรมาน
---วิธีบรรเทากรรม เนื่องจากกรรมนี้เป็นกรรมหนักและเจ้ากรรมนายเวรมีความอาฆาตแรงกล้า ให้ทำบุญไถ่ชีวิตโค กระบือที่กำลังจะถูกฆ่า หรือซื้อปลานำไปปล่อย เป็นต้น
*37.กรรมตกงาน
---กรรมนี้เกิดจาก เคยกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ตกงาน แย่งงานผู้อื่นมาก่อน
---วิธีบรรเทากรรม ทำบุญช่วยเหลือคนที่ตกงานให้มีงานทำ หรือช่วยเหลือคนที่มีอาชีพให้มีอาชีพเลี้ยงตัว สวดมนต์ไหว้พระ ปล่อยนก ปล่อยปลาไหล ปลาสวาย ติดต่อกัน 7 วัน 15 วัน
*38.กรรมมีอาชีพต่ำต้อยผู้คนดูแคลน
---กรรมนี้เกิดจาก ชาติก่อนเคยบวชด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ ไร้ความศรัทธาอาศัยผ้าเหลืองหากิน อนึ่ง เคยทำให้คนอื่น เช่น พ่อแม่เป็นทุกข์ จิตใจห่อเหี่ยว ดูหมิ่นดูแคลนคนที่มีอาชีพต่ำต้อยกว่าตน
---วิธีบรรเทากรรม สวดมนต์ขอขมาต่อพระรัตนตรัย ขอขมาต่อพ่อแม่ ให้เกียรติคนอื่น ไม่ดูหมิ่นดูแคลน ช่วยเหลือคนให้มีอาชีพทำมาหากินเลี้ยงชีพ ถือศีล 5 ศีล 8 นั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน ถวายสังฆทาน ทุกเดือน หรือทุก 3 เดือน จะช่วยแก้กรรมได้เร็วขึ้น
*39.กรรมครอบครัวยากจน
---กรรมนี้เกิดจาก ชาติก่อนเป็นคนตระหนี่ถื่เหนี่ยว ไม่เคยให้ทาน บริจาคสิ่งของแก่คนตกทุกข์ได้ยาก
---วิธีบรรเทากรรม หมั่นทำบุญบริจาคทานหรือสิ่งของช่วยคนตกยาก สิ่งสำคัญคือ ให้มีความขยัน อดทน ประหยัด เลี้ยงชีพตามหลักเศษฐกิจพอเพียง การทำบุญนั้นไม่จำเป็นต้องให้เป็นเงินทอง ให้ด้วยออกแรงช่วยเหลือ ให้ด้วยการแนะนำให้คนบริจาคทาน ทำบุญอย่างนี้ ก็เป็นการให้ที่เป็นบุญด้วยเช่นกัน
*40.กรรมเป็นทุกข์เพราะความรัก อกหัก ไม่สมหวัง
---กรรมนี้เกิดจาก ชาติก่อนเป็นคนเจ้าชู้ หลอกผู้อื่น ให้อกหัก หรือทำคนที่รักกันให้แตกแยก
---วิธีบรรเทากรรม เป็นธรรมดาที่คนมีความรักแล้วต้องมีทุกข์ เพราะพระพุทธเจ้าตรัสว่าไว้ว่า "ความทุกข์ย่อมเกิดจากของที่รัก" ฉะนั้น ไม่มีใครที่มีรักแล้วไม่ทุกข์ วิธีแก้ที่ดีที่สุดก็คือ รักอย่างมีสติ คือ ต้องท่องอยู่ในใจเสมอว่า ทุกสิ่งไม่ใช่ของเรา และให้รักษาศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร ร่วมทำบุญงานแต่งงานทำสิ่งดีๆ ให้คนอื่นได้สมรักสมหวัง.
...............................................................
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล
รวบรวมโดย...แสงธรรม
อัพเดทรอบที่ 6 วันที่ 28 กันยายน 2558
แก้ไขแล้ว ป.
0 ความคิดเห็น