การฟังความข้างเดียว
---การฟังความข้างเดียว คือ การฟังเรื่องราวต่างๆ จากคนๆหนึ่งที่พูดถึงอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริง หรือเท็จ ดีหรือไม่ดี แต่กลับไม่ได้ไปสอบถามฝ่ายที่ถูกพาดพิงถึงว่าเป็นความจริงหรือไม่ ไม่มีการพิสูจน์ และทำการหลงเชื่อหรือคิดว่าจริงตามที่ได้ยินมา
---การฟังความข้างเดียว เสมือนหนึ่งการนินทาว่าร้ายผู้อื่น โดยไม่มีการพิสูจน์ความจริง การพูดเรื่องหนึ่งเรื่องใด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่นั้น คือ การนินทา ส่วนใหญ่ของการนินทาจะอยู่ในกลุ่มผู้หญิง...
---ส่วนใหญ่ในนรกก็คือ หมู่ผู้หญิง...
---และหลายครั้งที่การฟังความข้างเดียวทำให้เกิดการเข้าใจผิด กันอย่างกว้างขวาง เกิดการเกลียดชังกันโดยไม่รู้สาเหตุ ทั้งที่บางคนไม่เคยได้เห็นหน้าหรือพูดคุยกันเลย เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างไม่มีเหตุผล เหตุเพราะเชื่อในสิ่งที่คนหนึ่งพูด โดยไม่มีการสืบเสาะหาความจริง หรือสอบถามอีกฝ่ายที่โดนพาดพิงถึงว่าความจริงเป็นอย่างไร
---ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ดี ได้กลายเป็นการใส่ร้ายป้ายสี ทำให้คนที่ไม่เคยรู้จัก เกิดการเกลียดชัง ไม่ชอบฝั่งที่โดนใส่ร้ายป้ายสีไปด้วย ส่วนคนที่โดนใส่ร้าย ก็ไม่รู้สาเหตุว่าคนอื่นโกรธเกลียดเราเรื่องอะไร ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น นานวันเข้าสังคมก็เกิดการแตกแยก เพียงเพราะคำพูดของคนที่ต้องการจะทำลายผู้อื่น
---สำหรับผู้ที่มีสติปัญญา เมื่อได้ฟังเรื่องราวต่างๆ จะต้องสืบหาความจริง หรือสอบถามผู้ที่โดนพาดพิง ว่าเป็นจริงดังคำกล่าวอ้างหรือไม่ ถ้าเป็นผู้รู้ทางศาสนา ต้องพยายามไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่ายให้ยุติลง หรือทำการพิสูจน์โดยไม่ฟังความข้างเดียว เพราะฉะนั้นควรนำทั้งสองฝ่ายมาคุยด้วยหลักการและเหตุผล มิใช่การพูดพร่ำเพรื่อ โต้แย้งให้ร้ายอีกฝ่ายโดยปราศจากหลักฐานอันเป็นจริง และนั่นเป็นสาเหตุของการแตกแยกในสังคมดังเช่นทุกวันนี้
---ผู้ที่มีปัญญาจะสามารถพินิจพิจารณาได้ว่า ใครพูดจริงใครพูดเท็จ และต้องตักเตือนผู้ที่ให้ร้ายผู้อื่นว่าไม่สมควรที่จะพูดในสิ่งที่ไม่มีมูล ความจริง หรือมีส่วนในความจริงก็ไม่สมควรพูดถึงบุคคลที่สามที่ไม่ได้ร่วมในวงสนทนา ด้วยในสิ่งที่ไม่ดี เพราะนั่นคือการนินทา เพราะถ้าความจริงปรากฏ ผู้ที่ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น ก็จะโดนชาวบ้านเกลียดชัง ไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย เพราะกลัวว่าตนเองจะถูกใส่ร้ายเช่นดังที่คนนั้นที่โดน "ลิ้น"อวัยวะหนึ่งที่จะนำพาไปสู่ไฟนรก อย่านำลิ้นของตนเองไปใช้ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์ ไม่สร้างสรรค์ เพราะนั่นคือหนทางที่จะนำพาไปสู่ความเดือดร้อนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งโลกนี้ และโลกหน้า
---การฟังความข้างเดียวเป็นสิ่งที่ไม่มีความยุติธรรมต่ออีกฝ่ายหนึ่งที่โดนพาดพิง เพราะฉะนั้น เมื่อได้ยินข่าวหนึ่งข่าวใดมา เขาจะใช้สติปัญญา คิดพิจารณา หาเหตุผล และสอบถามถึงแหล่งที่มาของข่าวนั้น ว่ามาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหรือไม่ หรือสอบถามโดยตรงกับบุคคลที่ถูกพาดพิงถึงความจริง โดยไม่ฟังความข้างเดียว เพราะการฟังความข้างเดียว คือการไม่มีความยุติธรรมต่อพี่น้องด้วยกันนั่นเอง.
.....................................................................................
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล
รวบรวมโดย...แสงธรรม
อัพเดทรอบที่ 6 วันที่ 29 กันยายน 2558
0 ความคิดเห็น