รู้เรื่องหินทิเบต
---มีตำนานเล่าว่าในสมัยเริ่มแรกของ ทิเบต ได้เกิดโรคระบาดอย่างรุนแรง ชาวทิเบตต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน โชคดีที่ได้พระองค์หนึ่งผ่านมานามว่า Vajravarahi ได้มาช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ โดยทำให้หินวิเศษหล่นมาจากฟ้า ใครก็ตามที่เชื่อมั่นก็จะปลอดภัยจากโรคร้าย ปลอดจากความหายนะและโชคร้ายทั้งปวง
*ประวัติความเป็นมาของหินทิเบต
---หินทิเบต ปรากฏในสมัย 3,000-1,500 ปีก่อนคริสตกาล ในอินเดียโบราณมีชนเผ่าอารยันอาศัยอยู่ ผู้คนในสมัยนั้นนับถือและสวดอ้อนวอนพระเจ้า ใช้เวทย์มนต์ มีการแกะสลักหินเป็นรูปสัตว์และสัญลักษณ์อื่น ๆ เพื่อทำให้วิญญาณบริสุทธิ์ หินในสมัยนั้นเรียกว่า เวด้า (Veda) เริ่มแรกลวดลายนั้น เกิดจากสภาพแวดล้อมและความรุนแรงของปรากฏการณ์ธรรมชาติ ต่อมาพวกเขาจึงได้คิดวิธีการรักษาโรคร้ายโดยใช้หินที่แกะลวดลายต่าง ๆ นำมาสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า
---หินทิเบต ในภาษาทิเบต มีความหมายว่าสวยงาม อำนาจ ร่ำรวย ในภาษาสันสกฤตเรียกว่า ไมซีก้า (Meiziga) ในสมัยฮ่องเต้ถังไท่จง พระธิดาของพระองค์ได้อภิเษกสมรสกับกษัตริย์ของทิเบต พระธิดาได้นำพระพุทธรูปจากอินเดีย เป็นสินสมรส และได้ประดิษฐานไว้ที่วัดโจคังในเมืองลาซา ชาวทิเบตได้ใช้หินทิเบตมากกว่าร้อยเม็ดฝังไว้ในองค์พระ
*ในบันทึก...ทางประวัติศาสตร์กล่าวว่า ได้มีการติดต่อกันระหว่างทิเบตและยูหยวนและมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันดังนั้น ตำนานการทำหินdZi จึงมีการถ่ายทอดกันมาหลายรุ่นจนถึงปัจจุบัน
---หินทิเบตพบมากในประเทศแถบเทือกเขาหิมาลัย เช่น ทิเบต ทิเบตตะวันออก ภูฏาน สิกขิม ลาดัค ชาวทิเบตเรียกอีกชื่อว่า เทียนจู ย้อนไปเมื่อ 5,000 ปีมาแล้ว ชาวทิเบตพบว่ามีสนามแม่เหล็กรอบ ๆ หินนี้จึงนำมาทำก้อนกลม ๆ และแบบต่าง ๆ
---แต่ในสมัยนั้นยังไม่มีเทคนิคในการทำมากนัก จึงได้หินที่มีลายตื้น ๆ ต่อมาชาวทิเบตได้วาดลวดลายหินนำโชคหลาย ๆ ลายเช่น แจกันโภคทรัพย์ ดอกบัว ลายเขี้ยวเสือ ตาหลาย ๆ แบบ และลายเส้น ฯลฯ แล้วนำไปเผาด้วยความร้อนสูง เพื่อให้ลวดลายซึมเข้าไปลึก ถ้าหินทิเบต ได้ผ่านการสวดหรือปลุกเสกโดยพระผู้มีวิชาหรือปรมาจารย์ทางลัทธิเต๋า จะทำให้มีพลังวิเศษ กล่าวกันว่าเฉพาะผู้ที่มีบุญวาสนาเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้ครอบครองหินนำโชค นี้
---ส่วนประกอบของหินแท้ ทำจากหินอาเก็ต เรียกว่า คาลซีโดนี (Chalcedony) มีชื่อทางเคมีว่า ซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO2) หินทิเบตแท้จะปล่อยสนามแม่เหล็กที่มีพลังงานสูงมากออกมา ลักษณะภายนอกจะแบ่ง ได้ 4 ชนิด ได้แก่ หินสีแดงซึ่งอยู่ลึกที่สุดของภูเขาขณะเดียวกันก็ทีค่าพลังวัตรและมีมูลค่า มากที่สุด นอกจากสีแดงยังมีหินสีดำ หินสีดำขาว และหินสีขาวหรือสีใสซึ่งอยู่ชั้นนอกสุดที่ระดับความลึกประมาณ 2-3 เมตร
*ความหมายของสัญลักษณ์บนหิน
*ลวดลายบนหินทิเบตแบ่งออกตามสัญลักษณ์ 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
---1.ความสงบสุข จะมีสัญลักษณ์เป็นรูปวงกลม หมายถึง ป้องกันความหายนะ เปลี่ยนโชคร้ายกลายเป็นดีและขจัดอุปสรรค
---2.ความก้าวหน้า มีสัญลักษณ์เป็นรูปสี่เหลี่ยม หมายถึง ธุรกิจรุ่งเรือง ความร่ำรวยรวดเร็ว มิโชคลาภและสมปรารถนา
---3.ความสมบูรณ์แบบ มีสัญลักษณ์เป็นเส้นโค้ง หมายถึง ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น มีมนุษญสัมพันธ์ที่ดี สร้างความเป็นผู้นำ
---4.พลังอำนาจ มีสัญลักษณ์เป็นรูปสามเหลี่ยม หมายถึง ต่อสู้กับสิ่งชั่วร้าย ปราบภูตผีปีศาจ ขับไล่พลังที่ชั่วร้าย.......
.................................................................................
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล
รวบรวมโดย...แสงธรรม
อัพเดทรอบที่ 6 วันที่ 29 กันยายน 2558
อธิโชค-ณัฐิดา สังอาภาวรากุล
0 ความคิดเห็น