/music/.mp3 http://www.watkaokrailas.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

 หน้าแรก

 บทความ

 เว็บบอร์ด

 รวมรูปภาพ

 พระบรมสารีริกธาตุ

 โจโฉ รวมเสียงธรรม

 เฟสบุ๊ค

 ติดต่อเรา-แผนที่

คุณสมบัติและโทษของน้ำมันมะพร้าว(คลิป)

คุณสมบัติและโทษของน้ำมันมะพร้าว(คลิป)

คุณสมบัติและโทษของน้ำมันมะพร้าว







---น้ำมันมะพร้าว ราชาแห่งโภชนาการ


---มะพร้าวเป็นพืชชนิดหนึ่ง ที่คนไทยรู้จักกันมานาน ด้วยเพราะแทบทุกส่วนของมะพร้าว ไม่ว่าจะเป็นต้น ใบและผล สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน  โดยเฉพาะในส่วนของผลนั้น ถือว่ามีบทบาทที่สำคัญต่อวิถีการบริโภคของคนไทยมานาน ไม่ว่าจะเป็นการกินเนื้ออ่อน หรือเนื้อที่แก่ก็จะมีการคั้นน้ำ ที่เรียกกันว่า น้ำกะทิ เพื่อนำไปทำอาหารทั้งคาวและหวาน หรือแม้แต่การนำน้ำกะทิไปสกัดเป็นน้ำมัน  ที่เรียกกันว่า “น้ำมันมะพร้าว” เพื่อนำไปใช้ในการทอดอาหาร


---จากการที่กระแสการหันมาใส่ใจสุขภาพ ทำให้ปัจจุบันนี้มีน้ำมันมะพร้าว ซึ่งมีการศึกษาและวิจัยกันอย่างจริงจัง พบว่ามีผลต่อสุขภาพของคนอย่างดีเยี่ยมในหลายมิติด้วยกัน ทำให้ปัจจุบันนี้น้ำมันมะพร้าวถูกนำมาใช้ประโยชน์ เป็นต้นว่าการดูแลผิวพรรณ การลดความอ้วน การนวด อาหารเสริม ฯลฯ



---ข้อมูลจากชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน้ำมันมะพร้าวแห่งประเทศไทย ระบุไว้ว่า น้ำมันมะพร้าวที่ผ่านการสกัดเย็น คือ น้ำมันที่ได้โดยไม่ผ่านกระบวนการความร้อน (Cold Press Coconut Oil) ผลิตจากเนื้อมะพร้าวสด เป็นน้ำมันมะพร้าวที่บริสุทธิ์ สีใสเหมือนน้ำ มีวิตามิน E และไม่ผ่านกระบวนการเติมออกซิเจน (Oxidation) และที่สำคัญในน้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริก อยู่ประมาณ 54.61% กรดนี้มีส่วนที่ทำให้น้ำมันมะพร้าว ดีเด่นกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ เพราะมันมีความสามารถพิเศษ คือ สร้างภูมิคุ้มกัน เมื่อเราบริโภคน้ำมันมะพร้าวเข้าไปในร่างกาย กรดลอริก จะเปลี่ยนเป็นโมโนกลีเซอไรด์ ที่มีชื่อว่า โมโนลอริน ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับที่อยู่ในน้ำนมมารดา ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารกในระยะ 6 เดือนแรก ที่ร่างกายยังไม่สร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เด็กระยะแรกเกิด ไม่ค่อยเป็นโรคอะไร โมโนลอริน เป็นสารปฏิชีวนะที่ทำลายเชื้อโรคทุกชนิด ดีกว่ายาปฏิชีวนะที่ใช้อยู่ในปัจจุบันที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย  เชื้อรา  ยีสต์ โปรโตซัวและไวรัส ทั้งเชื้อที่ก่อให้เกิดหลอดเลือดแข็งตัว


*สำหรับการสกัดเย็นนั้นหากต้องการสกัดไว้ที่ปริมาณไม่มากนัก ก็สามารทำได้โดยง่าย ดังมีวิธีการดังต่อไปนี้


---1.คั้นกะทิ โดยใส่น้ำเล็กน้อย


---2.นำกะทิใส่ถุงพลาสติก นำเข้าตู้เย็นใส่ช่องธรรมดาเป็นเวลา 24 ชั่วโมง


---3.เมื่อนำออกจากตู้เย็นจะพบว่า กะทิจะมีการแยกชั้น เป็น 2 ชั้น ชั้นบนจะเป็นครีมกะทิ ชั้นล่างเป็นน้ำเปรี้ยว ให้ทำการเจาะถุงเอาน้ำเปรี้ยวออก แล้วมัดรูที่เจาะไว้ด้วยยางรัดของ จากนั้นนำเข้าตู้เย็นในช่องแช่แข็ง แช่ไว้ 36 ชั่วโมง จนแข็งดี


---4.นำออกมาตั้งพักไว้ข้างนอกรอจนกระทั่งกะทิที่แข็งตัวค่อยๆ ละลายและจะแยกชั้น จนเห็นชัดเจน 3 ชั้น


---ชั้นบนสุดเป็นครีม


---ชั้นกลางเป็นน้ำมันมะพร้าว


---ส่วนชั้นล่างเป็นน้ำเปรี้ยว


---5.ตักเอาเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำมันมะพร้าวไปใช้ประโยชน์


*คุณสมบัติและโทษของน้ำมันมะพร้าว


---จริงๆ แล้วในน้ำมันมะพร้าวมีสารอาหารเยอะมาก แต่สารอาหารที่สำคัญที่สุด คือ "กรดลอริค" ซึ่งจะพบเจอหรือมีอยู่มากในน้ำนมแม่ ถามว่าประโยชน์ของกรดลอริค คืออะไร เชื่อว่าทุกคนทราบเป็นอย่างดี จึงมีการรณรงค์ให้ทารกดื่มนมแม่ นอกจากนี้แล้ว ในน้ำมันมะพร้าวมีฤทธ์เป็นกรด จึงมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์สกัดเย็น ยังมีส่วนประกอบของวิตามินอี ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุให้เซลล์เสื่อมสภาพก่อนวัยอีกด้วย


---ในหลักการทำงานแบบนั้นน้ำมันมะพร้าวไปฆ่าโดยตรงไม่ได้ ต้องมองในคุณสมบัติการทำงาน สมมุติว่าแบคทีเรียก้อนกลมๆ และมีเกราะไขมันหุ้มตัวเอง ให้นึกถึงจานใส่อาหารที่เลอะไปด้วยไขมันหากทำการล้างโดยน้ำปกติ ไขมันจะไม่ออก แถมเลอะไปทั่วทั้งจาน แต่ถ้าใช้น้ำยาล้างจานจะสะอาด เป็นหลักการของการเอาไขมันไปละลายไขมัน เช่นเดียวกันกับน้ำมันมะพร้าว มันจะไปเคลือบแบคทีเรีย ไม่ให้สามารถไปทำงานได้ จากตรงนี้จึงมีการเอาน้ำมันมะพร้าวไปทำ  "ออยล์พูลลิ่ง" ซึ่งเป็นตำรับของอินเดีย นั่นคือใช้น้ำมันมะพร้าวแทนน้ำยาบ้วนปาก ผลที่ได้คือ การกำจัดเชื้อแบคทีเรียในปาก


---โดยหลักการก็คือ น้ำมันมะพร้าวจะไปจับเชื้อแบคทีเรียในปาก โดยพบว่า น้ำมันมะพร้าวที่บ้วนออกจากปากนั้น มีเชื้อแบคทีเรียจำนวนเยอะมาก แต่วิธีการบ้วนปากด้วยน้ำมันมะพร้าวให้ได้ประโยชน์มากที่สุด จะต้องใช้เวลาประมาณ 15 นาที ซึ่งถือว่านานพอสมควร สำหรับเวลาช่วงเช้าในกลุ่มคนที่ต้องเร่งรีบออกไปทำงาน ตรงนี้มีแนวทางอยู่ว่า หลังจากตื่นนอนก่อนที่จะเข้าไปทำภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำ ให้เริ่มอมน้ำมันพะพร้าวก่อน แล้วจึงทำภารกิจส่วนตัว และหลังจากเสร็จซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 20 นาที ก็บ้วนน้ำมันมะพร้าวทิ้ง


*แข็งแรงสดใสจากภายในสู่ภายนอก


---ผู้ที่บริโภคน้ำมันมะพร้าวจะมีสุขภาพแข็งแร็ง เพราะได้พลังงานทันทีที่บริโภคน้ำมันมะพร้าว นอกจากนั้นน้ำมันมะพร้าวยังช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารด้วย โดยการเพิ่มการดูดวิตามิน เกลือเเร่ และกรดอะมิโน เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก จึงถูกย่อยง่ายและเคลื่อนที่ไปตามของเหลวในร่างกาย จึงเป็นที่นิยมและเหมาะสมในการนำไปหุงต้มอาหาร สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาการย่อยไขมันและยังใช้ในสูตรน้ำนม เพื่อให้ไขมันที่จำเป็นแก่เด็กทารก และช่วยในการดูดซึมแคลเซียม แมกนีเซียม ซึ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนากระดูก


*ประโยชน์ในการบำรุงผิว


---ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าออกซิเจนช่วยให้คนเรามีชีวิต ช่วยให้คนดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่ในมุมกลับกันออกซิเจนก็ส่งผลให้เซลล์หรืออวัยวะของคนเสื่อมสภาพลงด้วย อย่างผิวคนที่พบว่ามีการแห้ง ลอกเสื่อมสภาพ ส่วนหนึ่งเกิดจากออกซิเจน น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันอิ่มตัว ซึ่งจะป้องกันการเติมออกซิเจนในระดับของเซลล์ เมื่อทาผิวด้วยน้ำมันมะพร้าว จึงส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพช้าลง รวมไปถึงการช่วยบำรุงผิวด้วย เพราะในน้ำมันมะพร้าวมีวิตามินอีอยู่ด้วย


*ช่วยในการลดความอ้วน จะมีอยู่ 3 ประเด็นที่ช่วยให้น้ำหนักลดลง


---1.น้ำมันมะพร้าวช่วยในการเผาผลาญด้วย เพราะน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่มีโมเลกุลสายขนาดปานกลาง คำว่ามีโมเลกุลสายขนาดปานกลาง เวลาที่คนทานลงไปสามารถที่จะเคลื่อนที่ได้เร็วภายใน 24 ชั่วโมง ร่างกายสามารถที่จะกำจัดออกไปได้หมด แตกต่างจากน้ำมันที่มีโมเลกุลสายยาว ที่ร่างกายกำจัดออกได้ช้าและที่สำคัญทำให้เกิดการสะสมภายในร่างกาย


---จากตรงนี้น้ำมันมะพร้าวมีผลต่อการลดน้ำหนักอย่างไร กล่าวคือ น้ำมันมะพร้าวจะลากน้ำมันสายยาว หรือไขมันสะสมเอาไปเผาผลาญในตัว ทำให้ร่างกายไม่มีไขมันสะสม หรือไม่มีคอเลสเตอรอลสะสมในร่างกาย จึงส่งผลให้ร่างกายมีน้ำหนักลดลง


---2.ร่างกายคนเรามีกระบวนการขับถ่าย ถ้าเราทานอาหารเข้าไป 10 ส่วน  หากถ่ายออกมา 5 ส่วน  แสดงว่าต้องเหลือในร่างกายอีก 5 ส่วน  ร่างกายอาจจะเผาผลาญไปได้ 3 ส่วน   เท่ากับว่าเหลือตกค้างอีก 2 ส่วน   แต่หากท่านทานน้ำมันมะพร้าวเข้าไป  จากอาหารที่ทานไป  10 ส่วน การเผาผลาญจะเพิ่มขึ้นรวมไปถึงการช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย  เท่ากับว่าสิ่งที่ตกค้างในร่างกายน้อยมาก 


---อย่างไรก็ดี เมื่อน้ำมันมะพร้าวช่วยในการขับถ่าย คนที่ทานน้ำมันมะพร้าวไปช่วงแรกอาจเจออาการท้องเสีย ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากในระยะต่อมาท้องยังเสียอีก ต้องหยุดทาน เหตุเพราะร่างกายอาจไม่เหมาะสมกับการทานน้ำมันมะพร้าว ซึ่งตรงนี้ร่างกายคนไม่เหมือนกัน อย่างที่มีคำกล่าวกันว่า คนธาตุหนัก คนธาตุเบา ซึ่งคนธาตุเบาจะท้องเสียง่าย


---3.การทานน้ำมันมะพร้าวจะส่งผลให้ความอยากอาหารน้อยลง เมื่ออยากน้อย ก็กินน้อย เมื่อกินน้อย อาหารหรือส่วนเกินที่จะตกค้างในร่างกายก็จะน้อยลง รวมไปถึงคุณสมบัติที่ช่วยในการเผาผลาญ จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ช่วยในการลดน้ำหนักหรือช่วยในการลดความอ้วน


*ผลเสีย


---ในขณะที่น้ำมันมะพร้าวให้ผลในด้านบวก เป็นธรรมดาตามกฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติที่ต้องมีผลในด้านลบ ไมีมีอะไรดีหมด การทานน้ำมันมะพร้าวในปริมาณมากเกินไปก็จะเกิดผลเสีย การทานน้ำมันมะพร้าวที่ปริมาณเหมาะสม ควรทานวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ข้อมูลตรงนี้มาจากงานวิจัยด้วยเพราะปริมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ ร่างกายสามารถกำจัดออกได้หมด แต่บางคนหากมองว่าน้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์เลยดื่มเยอะ ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกได้หมดส่งผลใหเกิดการตกค้างในร่างกาย



*ทานน้ำมันมะพร้าวช่วงไหนเกิดประโยชน์สูงสุด


---น้ำมันมะพร้าวสามารถทำงานได้ดีที่สุด ในช่วงที่ร่างกายท้องว่าง โดยในระหว่างวันช่วงที่ร่างกายท้องว่างมากที่สุด คือ ช่วงเช้า เพราะตอนกลางคืนขณะที่นอนหลับไม่ได้ทานอะไรเลย การทานน้ำมันมะพร้าวในตอนเช้าจึงถือว่ามีประโยชน์กับร่างกายมากที่สุด อย่างไรก็ดีการทานน้ำมันมะพร้าวภายในครั้งเดียว ร่างกายอาจรับไม่ได้ ดังนั้นควรจะแบ่งทานเป็น 3 เวลาก่อนรับประทานอาหารประมาณครึ่งชั่วโมง


*การเก็บรักษา


---น้ำมันมะพร้าวจะกลายเป็นไขที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ตรงนี้คงต้องกล่าวถึงการโจมตีของคนที่พูดว่า น้ำมันมะพร้าวเป็นโทษต่อร่างกาย เพราะน้ำมันมะพร้าวจะเป็นไข เมื่อทานลงไปในร่างกาย แต่จากข้อมูลที่ว่าน้ำมันมะพร้าวจะเป็นไขหรือแข็งตัวเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส เท่ากับว่าโอกาสที่น้ำมันมะพร้าวจะเป็นไขหรือแข็งตัวในร่างกายคนเป็น 0 เพราะอุณหภูมิในร่างกายคนปกติ คือ 37-38 องศาเซลเซียส


---จากการที่น้ำมันมะพร้าวสามารถแข็งตัวได้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส จึงพบว่าในบางร้านมีการเปิดแอร์ จะพบว่าน้ำมันมะพร้าวจะขุ่นขาว บ้างก็แข็งตัวไปเลย หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นน้ำมันมะพร้าวที่เสียแล้ว ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ภาวะที่เกิดขึ้นถือเป็นสิ่งปกติของน้ำมันมะพร้าว "กล่าวได้ว่าน้ำมันมะพร้าวของแท้ต้องเป็นไขในอุณหภูมิต่ำ แต่ถ้าไม่เป็นไขถือว่าเป็นของปลอม"


---ส่วนการเก็บรักษาน้ำมันมะพร้าวให้มีอายุการใช้งานให้นานที่สุด โดยธรรมชาติของน้ำมันมะพร้าว สิ่งกระตุ้นที่จะทำให้เสียเร็วที่สุด รวมไปถึงการส่งผลให้มีกลิ่นหืน คือ อากาศ น้ำ ความชื้น ดังนั้นวิธีการที่ง่ายที่สุดคือ การปิดฝาภาชนะบรรจุให้สนิทและไม่ควรโดนแสงแดด


---ส่วนการนำไปใส่ตู้เย็น จริงๆ แล้วก็สามารถทำได้ หากใช้นำมันมะพร้าวในการบำรุงผิว เพียงแต่ต้องใส่ภาชนะที่ตักง่าย อย่างพวกตลับครีม  เพราะแม้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะเป็นไข แต่ก็สามารถตักมาทาผิวได้  เมื่อน้ำมันมะพร้าวโดนผิวคนก็จะละลายตามปกติ แต่หากเก็บไว้เพื่อทานคงจะมีปัญหา เพราะต้องรอให้ละลายเสียก่อน


*วิธีการสังเกตนำมันมะพร้าวสกัดที่เสีย


---ปกติน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นจะใสและไม่มีสี แต่ถ้าน้ำมันมะพร้าวที่เริ่มเสีย สีจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนๆ ความใสจะเริ่มลดลงหรือเปลี่ยนเป็นขุ่น และมีการตกตะกอน โดยปัจจัยที่ทำให้เสีย ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา การสกัด หรือมีการเจือปนของน้ำ.





................................................................





ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล

รวบรวมโดย....แสงธรรม

อัพเดทรอบที่ 6 วันที่ 28 กันยาย 2558

แก้ไขแล้ว ป.


Tags :

0 ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

*

*

view

ประวัติต่างๆ

ประวัติวัดเขาไกรลาศ

ประวัติของหลวงพ่อเทียน=คลิป

มาเช็คชื่อ-เช็คสกุลกันดีกว่า=คลิป

ประวัติพระอธิการชิติสรรค์ จิรวฑฺฒโน=คลิป

ขอเชิญผู้ร่วมบุญสร้างอาศรมเสด็จปู่พระบรมพรหมฤาษีไตรโลก

ประวัติหลวงปู่เทพโลกอุดร

ประวัติฝ่าพระหัตถ์ของพระพุทธองค์

ประวัติของนางวิสาขา=คลิป

ประวัติของอนาถปิณฑิกเศรษฐี=คลิป

ประวัติของเศรษฐีขี้เหนียว

ประวัติเหตุทำบุญที่ช้า=คลิป

ประวัติของผู้ร่วมบุญ=คลิป

ประวัติของพระไตรปิฎก=คลิป

ประวัติการสร้างพระพุทธรูปและพระเจ้า ๕ พระองค์

ประวัติง้วนดิน

ประวัติปู่ฤาษีนารอท

ประวัติพระปางมหาจักรพรรดิ์ ทรงปราบพระเจ้ามหาชมพูบดี

ประวัตินางห้าม..แห่งขอมโบราณ

ประวัติพญานาค

ความรู้และรายละเอียดพุทธเจดีย์

พระมหาโพธิสัตว์

สาระธรรม

ธรรมะส่องใจ

อานิสงส์แต่ละอย่าง

ประเพณีต่างๆ

ตำนานทั่วไป

สาระน่ารู้

ปกิณกะธรรม

วัตถุมงคล-สาระอื่นๆ

ข้อมูลทั่วไป

ปฎิทิน

« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    

สมาชิก

ลืมรหัสผ่าน?
สมัครสมาชิก

สถิติ

เปิดเว็บ20/06/2011
อัพเดท20/04/2024
ผู้เข้าชม6,666,126
เปิดเพจ10,430,727
สินค้าทั้งหมด8

 หน้าแรก

 บทความ

 เว็บบอร์ด

 รวมรูปภาพ

 พระบรมสารีริกธาตุ

 โจโฉ รวมเสียงธรรม

 เฟสบุ๊ค

ติดต่อเรา-

view